สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ร่วมกับ ฟิวเจอร์พาร์ค
วันที่: 04 มิถุนายน 2556 |
รายงานพิเศษ

ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ (กลาง) นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย

รถ AUSTIN 7 TOURER ผลิตระหว่างปี ค.ศ.1929 ถึง 1939 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 747 ซีซี 10.5 แรงม้า

รถ DKW F5 รุ่น เอฟ 5 ผลิตระหว่างปีค.ศ. 1935-1936 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2 สูบ 584 ซีซี 18 แรงม้า
สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ร่วมกับ ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต จัดงานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 37 ภายใต้แนวคิด แรกรถ แรกรัก ระหว่างวันที่ 20-23 มิ.ย.56
สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ร่วมกับ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ชวนหวนรำลึกและสัมผัสรถโบราณ รถคลาสสิคที่ทรงคุณค่ากว่าร้อยคัน ที่นำมาจัดแสดงอวดโฉมให้ได้ยลกันในงานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 37 ภายใต้แนวคิด “แรกรถ แรกรัก” หรือ “First Car, First Love” 20-23 มิถุนายนนี้
ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย กล่าวว่า งานประกวดรถโบราณ ปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 37 แล้วภายใต้แนวคิด “แรกรถ แรกรัก” หรือ “First Car, First Love” ซึ่งมีแนวคิดจากนักเล่นรถโบราณมักจดจำรถโบราณคันแรกของตนได้เสมอทั้งยี่ห้อ รุ่นและรายละเอียดต่างๆ รวมถึงวันเวลาที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกัน อาจจะเรียกว่าเห็นรถครั้งแรกก็รักเลยซึ่งมันเป็นประสบการณ์อันน่าประทับใจที่ยากจะลืมเช่นเดียวกับรักครั้งแรกนั่นเอง โดยการจัดงานทางสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทยจะขึ้นเพียงปีละครั้งและเป็นงานใหญ่ที่ได้รับการ รับรองมาตรฐานจากสมาพันธ์รถโบราณโลก หรือ FEDERATION INTERNATIONALE VEHICULES ANCIENS (FIVA) ซึ่งรถโบราณ รถคลาสสิค และรถจักรยานโบราณ ที่เข้าประกวดและจัดแสดงล้วนมีที่มาที่น่าสนใจ และมีจำนวนกว่าร้อยคัน คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 400 ล้านบาท
สำหรับประเภทรางวัลในการประกวดในครั้งนี้ แบ่งออกเป็น ประเภทรถโบราณ มีช่วงการผลิตตั้งแต่ปีค.ศ. 1929-1939 ประเภทรถหลังสงคราม มีช่วงการผลิตตั้งแต่ปี 1940-1950 ประเภทรถคลาสสิค มีช่วงการผลิตตั้งแต่ปีค.ศ. 1951-ปัจจุบัน ทั้งรถเก๋ง 4 ประตู รถสปอร์ท 2 ประตู รถโฟล์คสวาแกน รถอเมริกัน รถดัดแปลง รถประดิษฐ์พิเศษ รถบูรณะใหม่ยอดเยี่ยม เป็นต้น โดยจะได้รับถ้อยรางวัลทอง เงิน และทองแดงตามประเภทที่จัดประกวดตามลำดับ นอกจากการประกวดรถโบราณแล้วภายในงานยังจัดให้มีการประกวดเครื่องแต่งกายงามสมสมัยตามยุคสมัยของรถและการประกวดรางวัลราชินีแห่งความสง่างามอีกด้วย
ไฮไลท์สำคัญอีกอย่างภายในการจัดงานคือการนำรถโบราณกว่า 100 คันมาจัดแสดงให้ประชาชนที่เข้าร่วมงานได้รับชมฟรี เช่น รถออสติน เซเวน รุ่น ทัวเรอร์ AUSTIN 7 TOURER ผลิตระหว่างปีค.ศ. 1929 ถึง 1939 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 747 ซีซี 10.5 แรงม้า จำหน่ายให้กองทัพอังกฤษเป็นจำนวนมาก มีชื่อเรียกเล่นๆ ว่า “พแรม” (PRAM) เนื่องจากขนาดเล็ก และรูปทรงคล้ายรถเข็นเด็ก โดยมร.การ์เล ฮาร์เตวา อดีตเลขาธิการสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ไปพบในสภาพเศษเหล็กที่จังหวัดแพร่ จึงซื้อมา และตกถึงมือคุณวิรุฬห์ ปริวุฒิพงศ์ เจ้าของคนปัจจุบัน ซึ่งได้มอบให้อู่ “วิชาญการาจ” บูรณะจนกลับฟื้นคืนสภาพเดิมเหมือนเมื่อ 80 ปีก่อน รถดีเคดับเบิลยู รุ่น เอฟ 5 (DKW F) ผลิตระหว่างปีค.ศ. 1935-1936 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2 สูบ 584 ซีซี 18 แรงม้า จุดเด่นอยู่ที่ตัวถังซึ่งทำจากไม้อัด หุ้มด้วยผ้าตลอดคัน และรถเอ็มจี รุ่น ทีบี (MG TB) เป็นรุ่นที่ 2 ในอนุกรมที (T) ต่อจากรุ่นทีเอ (TA) ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1,250 ซีซี 54 แรงม้า เริ่มผลิตเดือนพฤษภาคม 1939 และต้องยุติการผลิตในปีเดียวกัน เพราะประเทศอังกฤษเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้กลายเป็นรถทรงคุณค่าและหายาก เนื่องจากออกมาในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของประวัติศาสตร์โลก และมียอดผลิตเพียง 379 คันเท่านั้น จึงอยากให้มาชมกันรับประกันว่าจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
ด้าน รัตนา อนันทนุพงศ์ ผู้อำนวยการด้านการตลาด ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค กล่าวว่า การจัดงานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 37 ถือว่าเป็นครั้งที่ 4 สำหรับศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิตที่ได้รับเกียรติจากทางสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทยที่เลือกใช้ลาน Alive Park Hall ชั้น G ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เป็นสถานที่จัดงาน 4 วัน ระหว่างวันที่ 20 - 23 มิถุนายนนี้ ซึ่งภายในงานจะมีกิจกรรมน่าสนใจมากมาย เช่น การประกวดถ่ายภาพกับรถ โดยโพสต์ผ่าน Fanpage Futurepark Society โดยจะมีคณะกรรมการจากทางสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ผู้ทรงคุณวุฒิร่วมตัดสินและมอบรางวัล กิจกรรม Work Shop ของสมาชิก Teens Club เพื่อสร้างสีสันให้กับคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาชมงาน ได้มีโอกาสและมีส่วนร่วมในการเล่าประสบการณ์รูปแบบรถโบราณในฝันที่ตัวเองชื่นชมและอยากให้มีจริงในปัจจุบัน และจัดสถานที่ให้จัดแสดง จำหน่ายหรือแลกเปลี่ยนอะไหล่สำหรับรถโบราณทุกประเภท การขับกล่อมบทเพลงในยุคสมัยก่อนจากวงดนตรีย้อนยุคนำโดยนายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย และนักร้องร่วมสมัยอีกมากมาย ทั้งนี้อยากจะเชิญชวนคนรุ่นใหม่ รุ่นเก่า ทุกๆรุ่น เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวเพื่อร่วมสร้างภาพความประทับใจร่วมกับรถโบราณที่หาชมได้ยากภายในงานร่วมกัน