สวทช. จัดงาน NSTDA InvestorDay 2013 เสริมสร้างคุณภาพชีวิต ด้วยธุรกิจเทคโนโลยี
TNN : Technologymedia News
8/30/2013
|

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมแล้วสำหรับการจัดงาน NSTDA Investor Day 2013 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 12 กันยายน 2556 นี้ ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ภายใต้แนวคิด เสริมสร้างคุณภาพชีวิต ด้วยธุรกิจเทคโนโลยี เพื่อให้กลุ่มนักธุรกิจเป้าหมายมีโอกาสเข้าถึงผลงานของนักวิจัยไทย ที่มีศักยภาพในเชิงพาณิชย์ นำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงนวัตกรรมใหม่ๆ เชื่อมโยงวงการอุตสาหกรรม การลงทุนและการเงิน เพื่อให้เกิดการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยี ผ่านการเผยแพร่และถ่ายทอดสู่ภาคเอกชนนำไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ เกิดการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างโอกาสรวมถึงเสริมศักยภาพการแข่งขันทางการค้าในประเทศและ ต่างประเทศ และผลักดันเศรษฐกิจไทยให้สามารถแข่งขันบนระดับเวทีโลกได้
ดร.พีรพันธุ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยใช้งบในการวิจัยและพัฒนาในสัดส่วน 0.2% ของจีดีพี ซึ่งอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว ทั้งประเทศญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ที่ใช้งบวิจัยในสัดส่วน 3% ของจีดีพี ส่งผลให้ประเทศพัฒนาและเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง หากไทยมุ่งผลิตงานวิจัยใหม่และเอกชนมีการนำงานวิจัยไปใช้อย่างต่อเนื่อง จะทำให้ประเทศมีโอกาสที่จะหลุดพ้นจากประเทศที่มีฐานะปานกลางไปสู่ประเทศที่ พัฒนาแล้ว ซึ่งการส่งเสริมให้เอกชนใช้งานวิจัยเพิ่มมากขึ้นนั้น กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช.จัดงาน NSTDA Investors' Day ประจำปี 2556 ที่จะมีการนำเสนอผลงานวิจัย และเทคโนโลยีที่มีคุณภาพสูงมากกว่า 40 ผลงาน เพื่อให้นักธุรกิจเข้าถึงงานวิจัยของไทยมากขึ้นการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ของ ประเทศการนำเสนอ 10 เทคโนโลยีที่น่าจับตามองสำหรับธุรกิจและนวัตกรรมทำเงิน เช่น ระบบหุ่นยนต์เพื่อการฟื้นฟูการเคลื่อนไหวของข้อมือ แขนท่อนล่างและข้อศอก สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่ต้องได้รับการฟื้นฟูการเคลื่อนไหว ผลิตภัณฑ์เอ็นพีวี เพื่อควบคุมแมลงศัตรูพืช โดยไม่ใช้สารเคมี เครื่องตรวจวัดอะฟลาทอกซินแบบรวดเร็วขนาดพกพา เป็นต้น อีกทั้งเป็นการสนองนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาประเทศให้มีความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจ และสังคมอย่างยั่งยืน ด้วยการเร่งสร้างขีดความสามารถด้านงานวิจัยและการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศไทย โดยการส่งออกเสริมและสนับสนุนงบการลงทุนด้านงานวิจัยและพัฒนาให้เพียงพอ เพื่อตอบสนองความต้องการของประเทศและภาคธุรกิจ ทั้งภายในและภายนอกของประเทศ เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาอย่างมีคุณภาพสมดุล ยั่งยืน และมีภูมิคุ้มกันตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า ปีนี้ สวทช.นำเสนอผลงานวิจัยและเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูงในการลงทุน และเปิดให้มีการเจรจาธุรกิจแบบ One on One Matching เพื่อให้เกิดการลงทุนในเชิงพาณิชย์ สำหรับผลงานวิจัย 6 เรื่องเด่นของ สวทช.ที่มีศักยภาพพร้อมสำหรับการลงทุน ได้แก่ ระบบหุ่นยนต์เพื่อการฟื้นฟูการเคลื่อนไหวของข้อมือ แขนท่อนล่างและข้อศอก สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่ต้องได้รับการฟื้นฟูการเคลื่อนไหว ผลิตภัณฑ์เอ็นพีวี เพื่อควบคุมแมลงศัตรูพืช โดยไม่ใช้สารเคมี เครื่องตรวจวัดอะฟลาทอกซินแบบรวดเร็วขนาดพกพา ระบบตรวจนับเซลล์แบบอัตโนมัติด้วยภาพจาก CMOS Sensor โดยใช้การตรวจวิเคราะห์ภาพด้วยเลเซอร์แทนการใช้เลนส์ ระบบตรวจจับการเคลื่อนที่และการจอดของยานพาหนะโดยอัตโนมัติ โดยสามารถรายงานผลแบบออนไลน์ ลูกอมเม็ดหญ้าหมอน้อยเลิกบุหรี่ โดยการนำสมุนไพรไทยมาสกัดเฉพาะส่วนและผลิตในรูปแบบเม็ด ไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย แต่มีราคาถูก ภายในงานยังมีโซนจัดแสดงนิทรรศการอีกกว่า 40 ผลงาน ประกอบด้วย แผ่นดูดซับเสียงอัจฉริยะ กระสอบชลประการ วัสดุฉลาดด้านทันตกรรม เส้นใยพอลีนเปลี่ยนสีตามอุณหภูมิ เป็นต้น และโซนจำหน่ายสินค้าเทคโนโลยีของ สวทช.ด้วยภายในงาน
ดร.มงคล เอกปัญญาพงศ์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สำนักวิศวกรรมและเทคโนโลยี ภาควิชาเมคคาโทรนิคส์ ไมโครอิเล็กทรอนิกส์และระบบสมองกลฝังตัว ผู้คิดค้นระบบตรวจจับการเคลื่อนที่และการจอดของยานพาหนะโดยอัตโนมัติ ซึ่งสามารถรายงานผลแบบออนไลน์ กล่าวว่า ระบบตรวจจับอัจฉริยะการตรวจจับเคลื่อนที่และการจอดรถของยานพาหนะโดยอัตโนมัติ (V-Watch) เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงสามารถตรวจจับได้ด้วยระบบ Security Feature เก็บหลักฐานไว้ในซอฟแวร์ระบบไว้เป็นหลักฐานได้อย่างละเอียดภาพคมชัดมีความละเอียดสูงทั้งวีดีโอระบบสั้น ระบบยาว และระบบ OCR ในการอ่านป้ายทะเบียนรถ แยกประเภทชนิดของรถตามที่ได้วางโปรแกรมเอาไว้ โดยสามารถรายงานผลแบบ Online หรือแบบ Real-time เป็นระบบที่ใช้งานง่ายและยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมตามความต้องการของลุกค้า เช่น ระบบตรวจจับผิดจราจรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบบที่จอดรถอัจฉริยะของกรุงเทพระบบตรวจนับรถอัตโนมัติของการจ่ายค่าทางด่วน ระบบตรวจนับจำนวนรถเข้าออกภายในโรงงาน และระบบการตรวจนับรถภายในคอนโดมิเนียม เป็นต้น สำหรับราคาการผลิตในเบื้องต้นมีต้นทุนเพียง 100,000 บาท สำหรับการติดตั้งโปรแกรมซอฟแวร์นี้
ดร.วินัย ชนปรมัตถ์ นักวิจัย สถาบันวิศวกรรมฟื้นฟูสมรรถภาพและเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ NECTEC กล่าวว่า สำหรับระบบหุ่นยนต์เพื่อการฟื้นฟูการเคลื่อนไหวของข้อมือ แขนท่อนล่างและข้อศอก ทั้งแขนซ้ายแขนขวา WEFRE สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่ต้องได้รับการฟื้นฟูการเคลื่อนไหวนั้นเป็นระบบที่สามารถเคลื่อนย้ายและติดตั้งได้ง่าย แม้ว่าตัวหุ่นจะเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ลงระบบการใช้งานชนิดรูปแบบต่างๆเอาไว้ มีปุ่มเปิดปิดมองเห็นได้ชัดเจนสำหรับผู้สูงอายุ อีกทั้งสร้างความเพลิดเพลินในการใช้งาน โดยใช้เทคนิคเทคโนโลยีหุ่นยนต์และเกมสองมิติ สามมิติ ให้ผู้ใช้ไม่เบื่อ ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกรูปแบบโปรแกรมของการฟื้นฟูได้หลากหลายตามแบบของกล้ามเนื้อที่ต้องการฟื้นฟูมี 3 ระดับ คือ ช้า ปานกลางและเร็ว ตั้งแต่ 5 นาที จนถึง 30 นาที โดยขณะนี้มีการคิดค้นพัฒนาให้สามารถใช้กับท่อนร่างของร่างกาย ขา สะโพก เท้า และส่วนอื่นๆ ที่ต้องได้รับการฟื้นฟูสิ่งที่จำเป็นเพื่อทำให้ผู้สูงอายุเหล่านี้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ราคารวมเบ็ดเสร็จทั้งหมดประมาณ 100,000 บาทเท่านั้น ตอนนี้โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งกำลังให้ความสนใจเข้ามาทำการศึกษากับทีมวิจัยระบบหุ่นยนต์ฟื้นฟูนี้เพื่อนำไปปรับเปลี่ยนโครงสร้างให้มีแรงจูงใจ กระทัดรัดใช้งานอำนวยความสะดวกในการรักษาผู้ป่วยให้หลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น
สำหรับงาน NSTDA InvestorDay 2013 จะจัดขึ้นในวันที่ 12 กันยายน 2556 ตั้งแต่เวลา 09.00-16.30 น. ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์
Tags : สวทช.
NSTDA Investor Day 2013
นวัตกรรม
อุตสาหกรรม
ลงทุน
เทคโนโลยี
ดร.พีรพันธุ์ พาลุสุข
วิจัยและพัฒนา
จีดีพี
หุ่นยนต์
ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล
Back | Top
|
ข่าวใหม่
more... |